3 สิ่งควรรู้ก่อนเข้าร้านขายเต็นท์ 

ร้านขายเต็นท์

เมื่อท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งจนติดใจแล้ว ทีนี้ถึงคราวที่อยากได้เต็นท์เป็นของตัวเองจะต้องไปเลือกซื้อเต็นท์ เพื่อที่จะได้ไปพักแคมป์ปิ้งในที่ต่างๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ต้องยืมเต็นท์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในการแคมป์ปิ้งจากคนอื่น แต่ก่อนที่จะไปซื้อเต็นท์ตามที่ต้องการนั้นควรมีการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน  

สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปร้านขายเต็นท์ 

1.รูปแบบของเต็นท์และความต้องการ

ต้องเรียบเรียงรายละเอียดปลีกย่อของคุณสมบัติของเต็นท์ที่ต้องการเพื่อเป็นข้อมูลให้สามารถเลือกซื้อเต็นท์ที่เหมาะสมได้ซึ่งประกอบไปด้วย 

1.1รูปทรงและขนาดของเต็นท์  รูปทรงและขนาดของเต็นท์ควรมีความสอดคล้องกันกับการที่จะนำไปใช้งาน เช่น ไปพักแรมที่บนดอยบรรยากาศสบายๆ ไม่ร้อนมากเพียง 2 คน เต็นท์ที่เหมาะสมก็ควรเป็นเต็นท์ขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ง่ายไม่เปลืองเวลาพักผ่อนมากนัก เต็นท์ที่เหมาะสมในกรณีนี้ก็เช่น เต็นท์โดม หรือเต็นท์แบบ Pop-up เป็นต้น 

1.2 จำนวนคนที่ต้องการใช้เต็นท์ในแต่ละครั้ง ขนาดของเต็นท์ควรมีความพอดีกันกำจำนวนคน ไม่น้อยไปจนทำให้อึดอัดหรือกว้างมากจนเกินไปที่จะต้องอาศัยกำลังในการขนย้าย และเวลาในการติดตั้ง/รื้อถอนโดยไม่จำเป็น 

1.3 คุณภาพของเต็นท์  ควรเลือกเต็นท์ที่ผลิตจากวัสดุที่ดีมีมาตรฐาน จะช่วยให้เต็นท์รองรับน้ำหนักและสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่นอกตัวเต็นท์ได้ดี 

1.4 วิธีการติดตั้งและรื้อถอนเต็นท์ เต็นท์ที่เลือกใช้ควรเป็นเต็นท์ที่มีการติดตั้งและรื้อถอนได้ง่าย เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาทำให้มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มเติม 

1.5 ราคาและการรับประกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ดังนั้นเวลาเลือกเต็นท์ก็ควรเลือกที่มีราคาหย่อมเยาว์สามารถเอื้อมถึงได้ไม่เดือดร้อน และหากมีการรับประกันสินค้าก็จะดี 

2.ความจำเป็นที่ต้องใช้เต็นท์

2.1ประเมินความจำเป็นและความถี่ที่จำเป็นต้องใช้เต็นท์ 

ก่อนการตัดสินใจไปร้านขายเต็นท์เพื่อซื้อเต็นท์นั้นต้องประเมินก่อนว่า ตัวเราเองมีความจำเป็นต้องซื้อเต็นท์หรือไม่ ถ้าซื้อมาสามารถใช้ประโยชน์และตอบสนองความต้องการของเราได้ครบถ้วนหรือไม่ การใช้งานมีความใช้งานบ่อยมากน้อยเพียงใด  

2.2 ในการไปเที่ยวจำเป็นต้องใช้เต็นท์หรือไม่ 

การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่ชอบไปทำจำเป็นต้องมีการใช้เต็นท์ร่วมตลอดหรือไม่ หากซื้อมาแล้วจะใช้ได้กับกิจกรรมที่ทำระหว่างไปแคมป์ปิ้งหรือไม่ ก่อนการตัดสินใจซื้อควรวางแผนให้ดี 

2.3 จำนวนคนที่ต้องการใช้เต็นท์เพิ่มขึ้น 

ประเมินสถานการณืของคนที่ไปพักด้วยกัน ว่าเต็นท์ที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ หากไม่เพียงพอกับจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว ควรพิจารณาซื้อเต็นท์ที่มีขนาดเพียงพอรองรับความต้องการตรงนี้ได้ 

3.ความน่าเชื่อถือของร้านขายเต็นท์

เมื่อเตรียมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเต็นท์ที่อยากได้ครบถ้วนแล้ว ที่นี้ก็มาถึงขั้นตอนการตามหาร้านขายเต็นท์ที่ดีและน่าเชื่อถือ ซึ่งมีข้อสังเกตเบื้องต้นดังนี้ 

3.1 มีความรู้เรื่องเต็นท์และอุปกรณ์ต่างๆ  

ร้านขายเต็นท์ต้องมีความรู้เรื่องเต็นท์และอุปกรณ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องและสามารถตอบข้อซักถามในสิ่งที่เราสงสัยได้ดี และยังสามารถแนะนำเปรียบเทียบเต็นท์ในรูปแบบต่างๆ ให้เราได้ 

3.2 มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย 

สินค้าในร้านควรมีให้เลือกหลากหลายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผุ้ซื้อได้มาก หรือใกล้เคียงที่สุด และยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกสินค้าที่ต่างกันออกไป 

3.3 การับประกันและการแก้ไขปัญหา 

ร้านขายเต็นท์ที่ดีควรมีสินค้าที่มีการรับประกันให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ รวมไปถึงถ้าลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับเต็นท์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ก็สามารถให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดีและทันเวลา 

เมื่อท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้งจนติดใจแล้ว ทีนี้ถึงคราวที่อยากได้เต็นท์เป็นของตัวเองจะต้องไปเลือกซื้อเต็นท์ เพื่อที่จะได้ไปพักแคมป์ปิ้งในที่ต่างๆ สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ต้องยืมเต็นท์หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในการแคมป์ปิ้งจากคนอื่น แต่ก่อนที่จะไปซื้อเต็นท์ตามที่ต้องการนั้นควรมีการเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน   สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปร้านขายเต็นท์  1.รูปแบบของเต็นท์และความต้องการ ต้องเรียบเรียงรายละเอียดปลีกย่อของคุณสมบัติของเต็นท์ที่ต้องการเพื่อเป็นข้อมูลให้สามารถเลือกซื้อเต็นท์ที่เหมาะสมได้ซึ่งประกอบไปด้วย  1.1รูปทรงและขนาดของเต็นท์  รูปทรงและขนาดของเต็นท์ควรมีความสอดคล้องกันกับการที่จะนำไปใช้งาน เช่น ไปพักแรมที่บนดอยบรรยากาศสบายๆ ไม่ร้อนมากเพียง 2 คน เต็นท์ที่เหมาะสมก็ควรเป็นเต็นท์ขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ง่ายไม่เปลืองเวลาพักผ่อนมากนัก เต็นท์ที่เหมาะสมในกรณีนี้ก็เช่น เต็นท์โดม หรือเต็นท์แบบ Pop-up เป็นต้น  1.2 จำนวนคนที่ต้องการใช้เต็นท์ในแต่ละครั้ง ขนาดของเต็นท์ควรมีความพอดีกันกำจำนวนคน ไม่น้อยไปจนทำให้อึดอัดหรือกว้างมากจนเกินไปที่จะต้องอาศัยกำลังในการขนย้าย และเวลาในการติดตั้ง/รื้อถอนโดยไม่จำเป็น  1.3 คุณภาพของเต็นท์  ควรเลือกเต็นท์ที่ผลิตจากวัสดุที่ดีมีมาตรฐาน จะช่วยให้เต็นท์รองรับน้ำหนักและสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่นอกตัวเต็นท์ได้ดี  1.4 วิธีการติดตั้งและรื้อถอนเต็นท์ เต็นท์ที่เลือกใช้ควรเป็นเต็นท์ที่มีการติดตั้งและรื้อถอนได้ง่าย เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาทำให้มีเวลาไปทำกิจกรรมอย่างอื่นเพิ่มเติม  1.5 ราคาและการรับประกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าราคาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ดังนั้นเวลาเลือกเต็นท์ก็ควรเลือกที่มีราคาหย่อมเยาว์สามารถเอื้อมถึงได้ไม่เดือดร้อน และหากมีการรับประกันสินค้าก็จะดี  2.ความจำเป็นที่ต้องใช้เต็นท์ 2.1ประเมินความจำเป็นและความถี่ที่จำเป็นต้องใช้เต็นท์  ก่อนการตัดสินใจไปร้านขายเต็นท์เพื่อซื้อเต็นท์นั้นต้องประเมินก่อนว่า ตัวเราเองมีความจำเป็นต้องซื้อเต็นท์หรือไม่ ถ้าซื้อมาสามารถใช้ประโยชน์และตอบสนองความต้องการของเราได้ครบถ้วนหรือไม่ การใช้งานมีความใช้งานบ่อยมากน้อยเพียงใด   2.2 ในการไปเที่ยวจำเป็นต้องใช้เต็นท์หรือไม่  การท่องเที่ยวและกิจกรรมที่ชอบไปทำจำเป็นต้องมีการใช้เต็นท์ร่วมตลอดหรือไม่ หากซื้อมาแล้วจะใช้ได้กับกิจกรรมที่ทำระหว่างไปแคมป์ปิ้งหรือไม่ ก่อนการตัดสินใจซื้อควรวางแผนให้ดี  2.3 จำนวนคนที่ต้องการใช้เต็นท์เพิ่มขึ้น …