6 สิ่งที่คุณต้องเปลี่ยนเมื่อเลือกซื้อรถมือสอง เปลี่ยนเถอะเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

ในบริบทภายใต้สถานการณ์โควิดที่ยังคงรุนแรงและส่งผลต่อเศรษฐกิจการงานและการเงินเช่นนี้ หลายคนอาจจะต้องพับแผนที่จะซื้อรถคันใหม่ป้ายแดงไปก่อน และเลือกที่จะมองรถมือสองเป็นคำตอบในตอนนี้ เพราะการมีรถสักคันมีปัจจัยมากมายที่จะต้องคำนึงถึง ราคาประกันภัยรถยนต์ที่รถทุกคันควรจะมีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องคิดเอาไว้ด้วย ซึ่งเมื่อมองรวมแล้วก็เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยที่ต้องรับมือ

เมื่อเป็นเช่นนี้ รถมือสองจึงดูจะลงตัวสอดรับกับสถานการณ์มากที่สุดในตอนนี้ แต่อย่างที่เราทราบกันว่า รถมือสองนั้นเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จึงมีอะไรที่จะต้องใส่ใจดูแลและเปลี่ยนใหม่อยู่ไม่น้อย เพื่อให้รถใช้งานได้ดีและใช้งานได้นานในแบบที่เราต้องการ ครั้งนี้จึงขอรวบรวม 6 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเมื่อคุณเลือกซื้อรถมือสองมาใช้งาน จะมีอะไรบ้างมาติดตามกัน

1.น้ำยาหล่อเย็น

ระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งรถมือสองเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะแล้ว เป็นไปได้ที่น้ำยาหล่อเย็นที่เคยมีจะเริ่มเสื่อมสภาพ ตรงนี้เราสามารถสังเกตได้จากสีของน้ำในหม้อน้ำ ถ้าสีเริ่มเปลี่ยนเป็นสีสนิม ก็แปลว่า น้ำยาเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว และถ้าพบว่าภายในหม้อน้ำเริ่มมีตะกรันสีขาวขุ่นอยู่ด้วยอันนี้จะชัดเจนเลยว่าน้ำยาหล่อเย็นใช้ไม่ได้แล้ว

ดังนั้น น้ำยาหล่อเย็นจึงเป็นสิ่งที่คุณต้องเปลี่ยนเพื่อล้างระบบให้สะอาดและทำให้รถมือสองที่คุณเลือกมีระบบหล่อเย็นเพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ที่ดีดังเดิมนั่นเอง

2.น้ำมันเครื่อง

ปกติการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์เราต้องทำตามระยะที่กำหนดอยู่แล้ว แต่ในกรณีรถมือสองแนะนำว่าถ้าซื้อมาก็ให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลยก็ดี จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นระบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพแบบที่เราไม่ต้องกังวล

3.น้ำมันเบรก

น้ำมันเบรกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพ หลายครั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นเพราะเบรกมีปัญหา ก็เกิดขึ้นจากน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพนั่นเอง ซึ่งอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ต่อให้เราเลือกจ่ายเบี้ยราคาประกันภัยรถยนต์ระดับที่สูงสุด แม้จะมีการชดเชยอย่างดีที่สุด แต่บางครั้งก็อาจชดเชยไม่ได้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ดังนั้นอย่าประมาทในเรื่องเบรกรถยนต์เป็นอันขาด

น้ำมันเบรกนั้นปกติเราจะเปลี่ยนเมื่อเราเริ่มเห็นน้ำมันเป็นสีดำ หรือขับมาเกิน 6 หมื่นกิโลเมตร ซึ่งรถมือสองทั่วไปก็จะขับเกิน 6 หมื่นกิโลเมตรอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนด้วยเช่นกัน

4.น้ำมันเกียร์

น้ำมันเกียร์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณาด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเจ้าของรถเดิมดูแลรักษารถดีแค่ไหน บางคนอาจใช้เกียร์หนักมาก ถ้าจะให้ดีเอาแบบมั่นใจ ก็แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ไปด้วยเลย ราคาก็พอ ๆ กับน้ำมันเครื่อง เพิ่มงบอีกนิดแต่มั่นใจกว่าก็น่าสนใจอยู่นะ

5.ตัวกรองระบบปรับอากาศภายในโดยสาร

อาจจะเรียกง่าย ๆ ว่าตัวกรองแอร์ เป็นตัวดักจับฝุ่นละออง ซึ่งสำหรับรถมือสองแล้ว เพื่อการหายใจที่สะอาดและสดชื่นขึ้นเวลาอยู่ในรถ ก็แนะนำให้เปลี่ยนอันใหม่เลย จะช่วยทำให้เรามั่นใจมากกว่า

6.ตัวกรองอากาศเครื่องยนต์

อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปอุดตันภายในห้องเครื่อง หากเครื่องยนต์ไม่มีอะไรเข้าไปอุดตันก็จะทำงานได้ตามปกติ ไม่ทำให้รถวิ่งสะดุด ตรงนี้จึงแนะนำให้เปลี่ยนเลย ราคาหลักร้อยเท่านั้นเอง

ทั้ง 6 สิ่งนี้คือสิ่งที่ควรเปลี่ยนทันทีเมื่อคุณเลือกซื้อรถมือสอง และอีกสิ่งที่คุณควรพิจารณาด้วยก็คือเรื่องของการทำประกันรถ แนะนำให้ทำแบบที่คุ้มครองครอบคลุมไว้ก่อนจะมั่นใจมากกว่า หากว่าต้องการเช็กราคาประกันภัยรถยนต์ก่อนตัดสินใจ ก็เข้าไปดูที่เว็บ EasyCompare ได้เลย เปรียบเทียบประกันให้คุณแบบครบถ้วน ช่วยให้คุณตัดสินใจได้แบบชัวร์ ๆ

ในบริบทภายใต้สถานการณ์โควิดที่ยังคงรุนแรงและส่งผลต่อเศรษฐกิจการงานและการเงินเช่นนี้ หลายคนอาจจะต้องพับแผนที่จะซื้อรถคันใหม่ป้ายแดงไปก่อน และเลือกที่จะมองรถมือสองเป็นคำตอบในตอนนี้ เพราะการมีรถสักคันมีปัจจัยมากมายที่จะต้องคำนึงถึง ราคาประกันภัยรถยนต์ที่รถทุกคันควรจะมีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องคิดเอาไว้ด้วย ซึ่งเมื่อมองรวมแล้วก็เป็นค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยที่ต้องรับมือ เมื่อเป็นเช่นนี้ รถมือสองจึงดูจะลงตัวสอดรับกับสถานการณ์มากที่สุดในตอนนี้ แต่อย่างที่เราทราบกันว่า รถมือสองนั้นเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จึงมีอะไรที่จะต้องใส่ใจดูแลและเปลี่ยนใหม่อยู่ไม่น้อย เพื่อให้รถใช้งานได้ดีและใช้งานได้นานในแบบที่เราต้องการ ครั้งนี้จึงขอรวบรวม 6 สิ่งที่ต้องเปลี่ยนเมื่อคุณเลือกซื้อรถมือสองมาใช้งาน จะมีอะไรบ้างมาติดตามกัน 1.น้ำยาหล่อเย็น ระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งรถมือสองเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาสักระยะแล้ว เป็นไปได้ที่น้ำยาหล่อเย็นที่เคยมีจะเริ่มเสื่อมสภาพ ตรงนี้เราสามารถสังเกตได้จากสีของน้ำในหม้อน้ำ ถ้าสีเริ่มเปลี่ยนเป็นสีสนิม ก็แปลว่า น้ำยาเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว และถ้าพบว่าภายในหม้อน้ำเริ่มมีตะกรันสีขาวขุ่นอยู่ด้วยอันนี้จะชัดเจนเลยว่าน้ำยาหล่อเย็นใช้ไม่ได้แล้ว ดังนั้น น้ำยาหล่อเย็นจึงเป็นสิ่งที่คุณต้องเปลี่ยนเพื่อล้างระบบให้สะอาดและทำให้รถมือสองที่คุณเลือกมีระบบหล่อเย็นเพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ที่ดีดังเดิมนั่นเอง 2.น้ำมันเครื่อง ปกติการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์เราต้องทำตามระยะที่กำหนดอยู่แล้ว แต่ในกรณีรถมือสองแนะนำว่าถ้าซื้อมาก็ให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเลยก็ดี จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการหล่อลื่นระบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพแบบที่เราไม่ต้องกังวล 3.น้ำมันเบรก น้ำมันเบรกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การทำงานของเบรกมีประสิทธิภาพ หลายครั้งอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นเพราะเบรกมีปัญหา ก็เกิดขึ้นจากน้ำมันเบรกเสื่อมสภาพนั่นเอง ซึ่งอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน ต่อให้เราเลือกจ่ายเบี้ยราคาประกันภัยรถยนต์ระดับที่สูงสุด แม้จะมีการชดเชยอย่างดีที่สุด แต่บางครั้งก็อาจชดเชยไม่ได้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น ดังนั้นอย่าประมาทในเรื่องเบรกรถยนต์เป็นอันขาด น้ำมันเบรกนั้นปกติเราจะเปลี่ยนเมื่อเราเริ่มเห็นน้ำมันเป็นสีดำ หรือขับมาเกิน 6 หมื่นกิโลเมตร ซึ่งรถมือสองทั่วไปก็จะขับเกิน 6 หมื่นกิโลเมตรอยู่แล้ว ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนด้วยเช่นกัน 4.น้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องพิจารณาด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าเจ้าของรถเดิมดูแลรักษารถดีแค่ไหน บางคนอาจใช้เกียร์หนักมาก…